หน้าหลัก
Button2
Button3
Button4
Button5
Button6
Button7 Button8

  ข้อมูลพื้นฐาน
   
 

ประวัติตำบลหน้าโคก

 

               ตำบลหน้าโคก อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดติดต่อกับตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

 

ทิศใต้จดตำบลอมฤต อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันออกจดตำบลโคกช้าง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจดตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

 

 ตำบลหน้าโคกมีพื้นที่โดยประมาณ 6.51 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3.281 ไร่ เป็นที่ราบลุ่มมีน้ำท่วมขังจึงเหมาะแก่อาชีพการเกษตร มีแม่น้ำน้อยไหล่ผ่านตลอดปี

 

ตำบลหน้าโคกเดิมแบ่งพื้นที่เป็น 6 หมู่บ้าน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2537 ได้แบ่งพื้นที่ เป็น 7 หมู่บ้าน จนถึงปัจจุบัน คำว่า “ตำบลหน้าโคก” เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ใดไม่ปรากฏ สันนิฐานว่าด้านทิศตะวันออกซึ่งจดกับตำบลโคกช้าง มีเรื่องเล่ากันต่อ ๆ มาว่าในสมัยโบราณนานปีมีควานช้างนำช้างหลายเชือกมาอาบน้ำเป็นประจำที่ริมแม่น้ำน้อย ด้านตะวันออกของแม่น้ำน้อยแล้วพักอาศัยอยู่ และที่บริเวณนี้มีเนินดินสูงพอสมควร หรือเรียกว่า “โคก” ที่ดินบริเวณนี้เป็นที่สาธารณะ แต่ปัจจุบันมีประชาชนเข้ามาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่หลายสิบหลังคาเรือน

 

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเรียกตำบลนี้ว่า “หน้าโคกช้าง” เพราะอยู่ติดด้านหน้าของ ตำบลโคกช้าง คำว่าช้างได้กร่อนหายไปคงเหลือแต่คำว่า “หน้าโคก” เท่านั้น ตำบลหน้าโคกนี้คงเกิดขึ้นก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ พร้อม ๆ กับเมื่อสยามได้แบ่งเขตเป็นจึงหวัด อำเภอและตำบล ตามลำดับนั้นเอง

 

ตำบลหน้าโคกเกิดขึ้นก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะเมื่อ พ.ศ. 2445 พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จทางชลมารค มาทอดกฐิน ส่วนพระองค์ ณ วัดตึก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2451 ซึ่งเป็นวัดที่พระสหายของพระองค์ท่านถวายบ้านตึกเป็นวัด พระสหายของพระองค์มีนามว่า ช้าง ภรรยานายช้างชื่อ เงิน วัดตึกจึงได้นามต่อท้าย คชหิรัญ เมื่อ รัชกาลที่ 5 ทอดกฐินเสร็จแล้ว กลับมาลงเรือครุฑเหินเห็จ ขึ้นไปตามลำแม่น้ำน้อย เมื่อถึงวัดหน้าโคกซึ่งอยู่ตำบลหน้าโคก ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน้อย จึงหยุดพักเสวยอาหารที่หน้าวัดหน้าโคก พระองค์ทรงพักผ่อนอริยาบถ ตามสมควรขณะนั้นมีชาวบ้านมาเฝ้าจำนวนหนึ่งจึงมีพระดำรัสว่า “ที่นี่ลมพัดเย็นสบายดีมาก” วัดนี้หน้าจะมีชื่อใหม่ว่า “วัดสว่างอารมณ์เจริญ”

 

ทางวัดหน้าโคกมีหลักฐานที่พอจะเชื่อได้ว่า รัชกาลที่ 5 กับพระสหายช้างเสด็จมาจริง เพราะพระสหายช้างถวายเตียงนอนแบบพิเศษไว้หลังหนึ่ง ปัจจุบันยังตั้งอยู่ที่หอสวดมนต์ของวัดหน้าโคก ซึ่งเป็นเตียงที่วิจิตรพิสดาร สวยงามมาก และยังมีหม้อต้มน้ำทำด้วยทองแดง ๒ชิ้น เรือม่วง 1 ลำ ตาลปัด 1 ด้าม ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว ที่มาของ ๆ เหล่านี้คือเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 ได้ปลงศพพระองค์เจ้าอุรุพงษ์ ฯซึ่งเป็นพระโอรสองค์หนึ่ง ได้ให้โดยผ่านทางพระสหายช้าง นิมนต์พระมาแสดงธรรมแล้วถวายเป็นกันฑ์เทศนา.

   
   
   
   
   
   

นับจำนวนผู้เข้าชม